ผลสำรวจล่าสุดจากธนาคาร Deutsche Bank เผยว่าผู้บริโภคในสหรัฐฯ ยอมรับสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น โดยมีไม่ถึง 1% ที่มองว่าเป็นเพียง "กระแส" ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทัศนคติครั้งสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในระบบการเงินหลักมากขึ้น จากรายงานพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 50% มองว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์และวิธีการชำระเงินที่จำเป็น โดย 65% เชื่อว่าในที่สุดแล้วสกุลเงินดิจิทัลอาจเข้ามาแทนที่เงินสดได้
ความรู้สึกผสมผสานเกี่ยวกับ Bitcoin และ Stablecoins
แม้ว่าสินทรัพย์ดิจิทัลจะได้รับการยอมรับมากขึ้น แต่ความรู้สึกของผู้บริโภคที่มีต่อสกุลเงินดิจิทัลบางสกุลยังคงไม่แน่นอน Bitcoin (BTC) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดนั้นมีแนวโน้มที่ลดลง โดยผู้เข้าร่วมการสำรวจหนึ่งในสามคาดว่าราคาจะอยู่ที่ต่ำกว่า 60,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ มีเพียง 12%–14% เท่านั้นที่เชื่อว่าราคาจะทะลุ 70,000 ดอลลาร์ได้ ในระยะยาว ผู้ตอบแบบสอบถาม 40% มีความหวังในอนาคตของ Bitcoin ในขณะที่ 38% คาดการณ์ว่าราคาจะค่อยๆ หายไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
Stablecoins ซึ่งมีบทบาทสำคัญในระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) เนื่องจากมูลค่าที่ผูกกับสกุลเงินทั่วไปหรือสินค้าโภคภัณฑ์ เผชิญกับความไม่แน่นอนที่มากขึ้น ผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 18% เท่านั้นที่คาดว่า Stablecoins จะเติบโตได้ ในขณะที่ 42% คาดการณ์ว่า Stablecoins จะลดลง อย่างไรก็ตาม Stablecoins ที่ได้รับการหนุนหลังด้วยดอลลาร์สหรัฐหรือสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ มีแนวโน้มว่าจะรักษามูลค่าไว้ได้มากกว่าในระยะยาว
แนวโน้มการนำคริปโตมาใช้
การสำรวจของธนาคาร Deutsche Bank ซึ่งสำรวจผู้บริโภคกว่า 3,600 รายในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และยุโรป ระหว่างเดือนมีนาคมถึงกรกฎาคม พ.ศ. 2024 แสดงให้เห็นว่าการนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร นักวิเคราะห์จากธนาคาร Marion Laboure และ Sai Ravindran คาดการณ์ว่าการทำให้สกุลเงินดิจิทัลเป็นประชาธิปไตยจะเร่งตัวขึ้นในอีกสองถึงสามปีข้างหน้า โดยได้รับแรงผลักดันจากการพัฒนาของกฎระเบียบ กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) และนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความกังวลอยู่ โดยผู้ตอบแบบสำรวจมากกว่าครึ่งหนึ่งแสดงความกังวลเกี่ยวกับการล่มสลายที่อาจเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลหลักในอีกสองปีข้างหน้า
อนาคตของ Crypto และ Stablecoins
ในขณะที่แนวโน้มของสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังเปลี่ยนแปลงไป ความรู้สึกของผู้บริโภคที่แตกแยกกันก็แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่ระมัดระวังในการรักษาเสถียรภาพในระยะยาวของสินทรัพย์ดิจิทัล การนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสถาบันการเงินหลักๆ เช่น Deutsche Bank คาดการณ์ว่าจะมีการผนวกรวมเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม อนาคตที่ไม่แน่นอนของสกุลเงินดิจิทัลที่มีเสถียรภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เพิ่มมากขึ้น อาจเปลี่ยนทิศทางของตลาดสกุลเงินดิจิทัลได้