เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยึดสกุลเงินดิจิทัลมูลค่ากว่า 6 ล้านดอลลาร์จากกลุ่มมิจฉาชีพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มุ่งเป้าไปที่พลเมืองสหรัฐฯ ผ่านโครงการลงทุนฉ้อโกง สำนักงานอัยการสหรัฐฯ ประจำเขตโคลัมเบียประกาศเมื่อวันที่ 26 กันยายนว่าเหยื่อถูกหลอกให้เชื่อว่ากำลังลงทุนในธุรกิจสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกกฎหมาย ส่งผลให้สูญเสียเงินหลายล้านดอลลาร์ในกระบวนการนี้
เอฟบีไอติดตามเงินที่ถูกขโมยผ่านการวิเคราะห์บล็อคเชน โดยระบุกระเป๋าเงินหลายใบที่ยังคงมีสินทรัพย์ดิจิทัลผิดกฎหมายมูลค่ากว่า 6 ล้านดอลลาร์ บริษัท Tether ซึ่งเป็นผู้ออกสกุลเงินดิจิทัลแบบเสถียร ได้ช่วยในการกู้คืนโดยอายัดกระเป๋าเงินของมิจฉาชีพ ทำให้สามารถคืนเงินที่ถูกขโมยได้อย่างรวดเร็ว
แมทธิว เกรฟส์ อัยการสหรัฐฯ เน้นย้ำถึงความท้าทายในการกู้คืนทรัพย์สินจากผู้ฉ้อโกงจากต่างประเทศ โดยระบุว่าผู้ฉ้อโกงจำนวนมากตั้งอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งทำให้กระบวนการซับซ้อนขึ้น เขาเน้นย้ำว่าผู้หลอกลวงหลอกล่อเหยื่อให้คิดว่าตนกำลังลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล แต่สุดท้ายกลับขโมยเงินผ่านแพลตฟอร์มฉ้อโกง
เหยื่อมักถูกติดต่อผ่านแอปหาคู่ กลุ่มการลงทุน หรือแม้แต่ข้อความที่ส่งไปผิดทาง หลังจากได้รับความไว้วางใจแล้ว ผู้หลอกลวงจะแนะนำให้เหยื่อไปที่เว็บไซต์การลงทุนปลอมที่ดูเหมือนถูกต้องตามกฎหมาย โดยมักจะเสนอผลตอบแทนในระยะสั้นเพื่อล่อเหยื่อให้หลงเชื่อ อย่างไรก็ตาม เงินที่ฝากไว้จะถูกส่งไปยังกระเป๋าเงินที่ผู้หลอกลวงควบคุมอยู่
แชด ยาร์โบร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสืบสวนคดีอาญาของเอฟบีไอ เตือนว่าการฉ้อโกงการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันหลายพันคนทุกวัน ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทางการเงินอย่างร้ายแรง ในรายงานประจำปี 2023 ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต (IC3) ของเอฟบีไอ เปิดเผยว่าการฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัลที่รายงาน 71% เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงการลงทุน โดยมีเงินมากกว่า 3.9 พันล้านดอลลาร์ที่ถูกขโมยไปโดยมิจฉาชีพ